7 วิธีดูแลแผลผ่าคลอดสำหรับคุณแม่ แผลสมานไว ไม่เป็นคีลอยด์

วิธีดูแลแผลผ่าคลอดสำหรับคุณแม่มือใหม่

ถึงแม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะสนับสนุนให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ คลอดลูกด้วยวิธีทางธรรมชาติ เพราะจะทำให้เสียเลือดน้อยและฟื้นตัวได้เร็ว แต่ในปัจจุบันคุณแม่หลาย ๆ คนอาจเลือกใช้วิธีผ่าท้องคลอดกันมากขึ้น ซึ่งไม่ได้เลือกจากข้อบ่งชี้ที่ว่า คุณแม่ไม่สามารถคลอดเองได้ตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมาจากความต้องการของคุณแม่ที่ไม่อยากทนเจ็บนาน หรือต้องการกำหนดเวลาคลอดด้วยตนเอง อีกทั้งการผ่าคลอดในปัจจุบัน นับว่าเป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยสูงอีกด้วย

แต่สำหรับคุณแม่ที่กลัวการผ่าคลอด แต่กังวลในเรื่องของแผลผ่าตัด เพราะคิดว่าถ้าผ่าแล้วแผลจะหายช้า รวมถึงอาจฟื้นตัวได้ไม่ทันใจ ที่สำคัญกลัวว่าจะมีรอยแผลผ่าตัดทิ้งไว้จนรบกวนจิตใจ ต้องขอบอกว่าการผ่าคลอดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะในเรื่องของการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับสุขภาพและการดูแลตัวเองของคุณแม่เป็นหลัก แต่หากใครที่กังวลกับเรื่องแผลผ่าคลอด เรามีเคล็ดลับการดูแลแผลผ่าคลอดมาบอกกัน หากนำไปปรับใช้ก็จะสามารถช่วยลดรอยแผลเป็นจากการผ่าคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว!

บอกต่อ! 7 วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว ไม่เป็นแผลนูน

ดูแลแผลอย่าให้ติดเชื้อ

สิ่งสำคัญในการดูแลแผลผ่าคลอดของคุณแม่หลังคลอด คือต้องระมัดระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ แผลแยก หรือทำให้แผลติดเชื้อเด็ดขาด โดยเฉพาะในระยะ 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายช้า เกิดการอักเสบ อีกทั้งแผลที่บอบช้ำจากการติดเชื้อยังจะมีโอกาสกลายเป็นแผลเป็นนูนได้ง่ายขึ้นด้วย

หลังเปิดแผลแล้วอย่า แคะ แกะ หรือเกา

หลังจากผ่าตัดคลอดประมาณ 1 สัปดาห์ แพทย์จะทำการนัดมาตัดไหม เมื่อตัดไหมเรียบร้อยแล้ว การดูแลแผลผ่าคลอดจะทำได้ง่ายขึ้น เพราะว่าคุณแม่มือใหม่สามารถอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายและล้างแผลด้วยสบู่ได้ตามปกติ แต่ต้องระมัดระวังอย่าแคะ แกะ หรือเกาบริเวณแผล และเมื่ออาบน้ำเสร็จ ควรเช็ดแผลให้แห้งสนิท อย่าปล่อยให้แผลเกิดการอับชื้นหรือหมักหมม เพราะอาจเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้

ใช้ผ้ารัดหน้าท้อง

เนื่องจากการผ่าตัดที่หน้าท้องเพื่อการคลอดลูก แผลจะอยู่บริเวณหน้าท้องส่วนล่าง ทำให้เมื่อมีการขยับตัวอย่างรวดเร็ว หรือมีการลุกนั่ง จะเกิดอาการเกร็งหน้าท้อง ส่งผลให้อาจรู้สึกเจ็บแผลผ่าคลอดได้ การใช้ผ้ารัดหน้าท้อง จะช่วยพยุงไม่ให้กล้ามเนื้อบริเวณแผลกระทบกระเทือน ทั้งยังช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวร่างกายได้

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ควรเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไม่ว่าจะเป็น ไข่ หรือเนื้อสัตว์ รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยสมานแผล พร้อมซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งการรับประทานอาหารประเภทโปรตีน จะไม่ส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็นอย่างที่หลายคนเข้าใจด้วย

ครีมลดรอยแผลเป็นให้แผลไม่เป็นคีลอยด์

ไม่ยกของหนัก

อีกหนึ่งการดูแลแผลผ่าคลอด ซึ่งเป็นข้อที่คุณแม่ควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือในช่วง 3 เดือนแรกหลังผ่าคลอด คุณแม่ต้องไม่ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลแยก แผลปริ จนส่งผลให้ต้องไปเย็บแผลซ้ำ ทั้งยังเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นได้ง่าย

ทาผลิตภัณฑ์ครีมลดรอยแผลเป็น

หลังจากที่แผลผ่าตัดแห้งสนิทดีแล้ว คุณแม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมลดรอยแผลเป็น หรือซิลิโคลนเจลลดรอยแผลเป็นที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดยควรหมั่นทาหรือใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นในบริเวณที่ผ่าคลอดได้เป็นอย่างดี

ออกกำลังกายเบา ๆ

สิ่งสุดท้ายในการดูแลแผลผ่าคลอดและดูแลตัวเองหลังจากการผ่าคลอด คือ คุณแม่ควรหมั่นออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยการเดิน หรือการแกว่งแขน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อให้เนื้อเยื่อสามารถสมานตัวได้ดี และยังป้องกันการเกิดพังผืด แผลผ่าตัดจะได้เรียบเนียนสวย ไม่เป็นแผลเป็นอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ คือ 7 วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้เนียนเรียบ ไม่เป็นแผลเป็นนูน ด้วยการทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่าง PROVAMED SCAR SILICONE ครีมทาแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น แผลผ่าตัดจากการคลอดลูก ผ่าตัดศัลยกรรม รวมถึงแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก มีส่วนผสมของ Epitensive นวัตกรรมโปรตีนจากพืช ซึ่งใกล้เคียงกับโปรตีนในผิว ซึ่งมีสรรพคุณช่วยซ่อมแซมผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณที่เกิดบาดแผล รวมถึงมี CPX ที่ให้คุณสมบัติในการสร้างฟิล์มเคลือบผิวบาง ๆ ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์สูญเสียน้ำและความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว และไม่เกิดแผลเป็นนูน ผสานคุณค่าของวิตามินอีและซี ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน และไม่ทิ้งรอยดำหลังการเกิดแผล

หากสนใจสามารถช็อปสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์, ห้างสรรพสินค้า และร้านขายยาใกล้บ้านคุณ

แชร์ :