หนึ่งในปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจให้กับทั้งผู้ชายผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น นั่นก็คือการเป็น “สิว” แต่หลาย ๆ คนอาจจะสังเกตว่า ทำไมสิวของแต่ละคนถึงมีลักษณะที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประเภทของสิวว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร พร้อมแนะนำ 5 ทริคง่าย ๆ ที่จะช่วยหยุดปัญหาสิวไม่ให้เกิดซ้ำ ใครอยากรู้ห้ามพลาดเลยนะ!
รู้จักการอุดตันของ “คอมีโดน” ในรูขุมขน
คอมีโดน (Comedones) เป็นปฏิกิริยาของก้อนไขมันอุดตันในรูขุมขนที่ส่งผลทำให้เกิดสิวประเภทต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 อย่าง ดังนี้
- น้ำมัน ที่เป็นความมันบนผิวหน้า เกิดจากอาหารที่กิน หรือเป็นน้ำมันที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอาง เป็นสารที่ทำผิวเกิดความระคายเคือง เสี่ยงต่อการอุดตันได้ง่าย
- ขนอ่อน เป็นขนที่อยู่ในรูขุมขน ซึ่งหากไม่สามารถงอกออกมาได้ ก็จะกระจุกตัวรวมกันทำให้เกิดการอุดตัน
- เซลล์ผิวที่ลอกตัว โดยปกติเซลล์ผิวจะมีการผลัดตัวอยู่เสมอ แต่หากเกิดความผิดปกติจากทั้งโรคผิวหนังบางชนิด หรือการใช้สกินแคร์ที่มี AHA, BHA มากเกินไป ผิวจะมีการผลัดตัวมากขึ้น ส่งผลให้มีชั้นขี้ไคลเพิ่มขึ้นและอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย
- เชื้อโรค แบคทีเรีย และมลพิษทางอากาศต่าง ๆ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปัญหาสิวแย่ลง เพราะมักส่งผลให้เกิดการอักเสบของสิว
สิวมีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?
สิวประเภทไม่อักเสบ (Non-Inflammatory Acne) เป็นประเภทของสิวที่กดแล้วจะไม่มีอาการเจ็บ ซึ่งมีหลายชื่อให้เรียกแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
- สิวหัวดำ : เป็นการอุดตันหัวสิวแบบเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดเล็ก มีหัวสีดำบนผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการอุดตันของเส้นขน เนื้อเยื่อและไขมันในรูขุมขน แล้วทำปฏิกิริยากับเม็ดเมลานินของสีผิว ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำ หรืออาจเรียกอีกชื่อว่าสิวเสี้ยนก็ได้ ซึ่งหากสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความนูนและผิวสาก ๆ โดยสามารถทำการรักษาได้ด้วยการกดออก
- สิวหัวขาว : เป็นการอุดตันหัวสิวแบบปิด มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดเล็ก มีหัวสีขาวบนผิวหนัง ซึ่งเกิดการจากการอุดตันของเชื้อแบคทีเรีย ที่ยังไม่ได้เกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน จึงยังไม่อักเสบ สามารถรักษาด้วยการใช้ยาละลายสิว เพื่อให้หัวสิวเปิดแล้วค่อยกดออก
สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เป็นประเภทของสิวที่พัฒนามาจากสิวอุดตันที่กดแล้วจะมีอาการเจ็บ ที่เกิดจากการอักเสบบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
- สิวตุ่มนูนแดง : เป็นสิวอักเสบในระยะแรก มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก แต่จะมีอาการบวมและเป็นนูนแดงขึ้นมาเล็กน้อย สามารถรักษาโดยการใช้ยารักษาสิว และหมั่นทำความผิวหน้าเป็นประจำ
- สิวหัวหนอง : เป็นสิวอักเสบในระยะที่สอง มีลักษณะเป็นตุ่ม มีอาการบวม แดง และมีหนองร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรีย พร้อมกับการอุดตันของรูขุมขน สามารถรักษาได้โดยใช้ยารักษาสิวหัวหนอง
- สิวซีสต์ : เป็นประเภทของสิวที่มีการอักเสบรุนแรง ที่เกิดจากเชื้อรา Malassezia ซึ่งสามารถพบได้ที่ผิวหนังของทุกคน มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ แดง และมีตุ่มหนองปะปน สามารถรักษาได้ด้วยยารักษาสิวยีสต์ และควรหมั่นล้างหน้าให้สะอาดหมดจด แต่หากมีอาการรุนแรงมากควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์
5 ทริคง่าย ๆ ป้องกันปัญหาสิวบุก เกิดซ้ำ!
- ทุกครั้งก่อนล้างหน้า ควรหมั่นเช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่งในขั้นตอนแรก
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิวที่เป็นสิว หรือเป็นสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารเคมี ไม่มีน้ำมันเพื่อกำจัดต้นเหตุของการเกิดสิว
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ผิวเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
- เลือกใช้สกินแคร์ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดการอุดตันบนในหน้า พร้อมปรับสภาพรูขุมขนให้กระชับมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับใบหน้าของตัวเอง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเกาะติดกับผิวหน้า รวมถึงหากเป็นสิวไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือบีบ เพราะจะทำให้สิวอักเสบได้ง่าย และหายได้ยากขึ้น
รู้กันไปแล้ว ว่าประเภทและลักษณะของสิวต่าง ๆ รวมถึงวิธีการดูแลผิวไม่ให้สิวเข้าใกล้มีอะไรบ้าง แต่หากอยากดูแลผิวหน้าให้ไกลสิวแบบเห็นผลลัพธ์ที่ดี พร้อมกับช่วยป้องกันสิวไม่ให้เกิดซ้ำ ตัวช่วยอย่างเจลแต้มสิวประสิทธิภาพสูงจาก Provamed Acne Spot Gelม คือหนึ่งในคำตอบ เพราะช่วยให้สิวยุบไว ไม่ทิ้งรอยดำ ไม่ทำให้ผิวแห้งลอก แถมช่วยลดสิวเฉพาะจุดได้ ให้ผิวกลับมาแข็งแรงและดูสุขภาพดีอีกครั้ง
ช็อปสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์, ห้างสรรพสินค้า และร้านขายยาใกล้บ้านคุณ