ดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงแผลเป็นนูน

การดูแลตัวเอง เพื่อเลี่ยงแผลเป็นนูน

เพราะผิวหนังของคนเราเป็นส่วนที่อ่อนนุ่มและบอบบาง หากเจอกับการกระทบกระเทือนแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูต่างหน้า โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม ที่มักทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่ยากจะรักษา ยิ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีก็อาจทำให้รอยแผลเป็นนั้นขยายใหญ่ จนกลายเป็นแผลเป็นนูนที่ยากจะปกปิดในที่สุด

ขอชวนมารู้จักกับ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำในการรักษารอยแผลเป็น ที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดแผลเป็นนูน พร้อมแนะนำการรักษาอย่างถูกต้องเพื่อบอกลาแผลเป็นกวนใจ ไม่ให้ลุกลามและกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิต!

5 สิ่งที่ไม่ควรทำในการรักษารอยแผลเป็น

  1. แคะ แกะ เกาในระหว่างที่แผลเป็นกำลังเริ่มแห้ง หลาย ๆ คนมักจะเผลอนำมือไปแกะหรือเกาแผลอยู่บ่อย ๆ เพราะเชื่อว่าจะทำให้รอยแผลเป็นหายไว แท้จริงแล้วพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดแผลเป็นนูน และยังอาจทำให้แผลอักเสบมากขึ้นอีกด้วย
  2. รัดแผลแน่นเกินไปการนำผ้ามารัดแผล ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่จะช่วยให้ผิวหนังสามารถฟื้นฟูและสมานแผลได้เต็มที่ แต่ในทางกลับกัน การรัดแน่นที่เกินไปและไม่เปลี่ยนผ้าพันแผลระหว่างวัน อาจทำให้แผลหายช้าลงกว่าเดิม เพราะทำให้ผ้าไปเสียดสีกับบาดแผล และยังส่งผลให้บาดแผลเกิดการอับชื้น
  3. ปล่อยให้แผลโดนน้ำบ่อย ๆเรามักจะได้ยินว่า ในช่วงเวลาที่รักษาตัว ให้พยายามหลีกเลี่ยงการโดนน้ำ นั่นเป็นเพราะการโดนน้ำบ่อย ๆ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้แผลเป็นลุกลามและเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ดังนั้นหากต้องการทำความสะอาด ให้ทำเพียงรอบ ๆ บาดแผลเท่านั้น หรือหากจำเป็นต้องทำความสะอาดด้านในแผล ควรเป็นการเช็ดเบา ๆ ด้วยน้ำเกลือ
  4. ปล่อยให้แผลโดนแดดอย่างที่เราทุกคนรู้กันดีว่า รังสี UV ในแสงแดดนั้นเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ และทำให้เกิดจุดด่างดำ รวมถึงฝ้ากระฝังลึก ดังนั้นการที่เราปล่อยให้แผลโดนแดดบ่อย ๆ โดยที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด หรือไม่ได้หาอุปกรณ์ป้องกัน ก็อาจทำให้รอยแผลกลายเป็นสีดำคล้ำที่ยากจะรักษา
  5. ปล่อยให้แผลหายเองโดยไม่ทายานอกจากพฤติกรรมการดูแลแผลที่ไม่ถูกต้องแล้ว การปล่อยแผลทิ้งไว้ให้หายเองโดยไม่ทายา ไม่หาวิธีรักษา ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสเกิดแผลเป็นนูนสูง และอาจลุกลามกลายเป็นแผลที่รุนแรงได้อีกด้วย

สิ่งที่ควรทำทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุหรือหลังผ่าตัด เพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็นนูน

ครีมทาแผลเป็นนูน เนื้อซิลิโคนเจล ประสิทธิภาพสูง

  • ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธีการทำความสะอาดแผลที่ถูกวิธี สามารถทำได้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียก ดังต่อไปนี้
    • ทำความสะอาดแผลแบบแห้ง: เหมาะสำหรับแผลขนาดเล็ก
      • ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์พอหมาด นำมาเช็ดรอบ ๆ บาดแผล โดยห้ามไม่ให้สัมผัสกับส่วนแผลด้านใน เพราะอาจเป็นการทำลายเนื้อเยื่อ
      • หลังทำความสะอาดแล้ว ให้ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์
    • ทำความสะอาดแผลแบบเปียก: เหมาะสำหรับแผลขนาดใหญ่ หรือแผลอักเสบ
      • ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์พอหมาด นำมาเช็ดรอบ ๆ บาดแผลจนสะอาด เหมือนกับการทำความสะอาดแผลแบบแห้ง
      • เปลี่ยนสำลีก้อนใหม่ ชุบด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาสำหรับทำความสะอาดแผลโดยเฉพาะ ค่อย ๆ เช็ดแผลด้านในอย่างเบามือ เพื่อฆ่าเชื้อโรคและดูดซับสิ่งคัดหลั่ง
      • เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อย ให้ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซตามขนาดของแผล
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาหารที่เหมาะกับการรักษาแผลเป็น ได้แก่ โปรตีน, วิตามินซี, ธาตุเหล็ก, สังกะสี และไขมันดี อาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยในการสมานแผล ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และช่วยลดการอักเสบ หากรับประทานอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้รอยแผลฟื้นฟูได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันควรงดอาหารบางประเภทที่อาจทำให้แผลอักเสบและหายช้า ได้แก่ แอลกอฮอล์, อาหารหมักดอง และอาหารรสจัด
  • ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเมื่อแผลเริ่มแห้งสนิทจนไม่จำเป็นต้องปิดแผล สิ่งที่ควรทำทันทีก็คือการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA++++ อย่างสม่ำเสมอก่อนออกแดด และควรทาซ้ำอีกครั้งในระหว่างวัน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้รอยแผลเป็นกลายเป็นสีดำคล้ำ
  • ใช้ยาทาแผลเป็นนูนที่มีประสิทธิภาพ ในระยะเวลาที่เหมาะสม อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูรอยแผล พร้อมป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนอย่างได้ผล ก็คือการเลือกใช้ยาทาแผลเป็นที่มีประสิทธิภาพ โดยควรเลือกใช้ยาเนื้อซิลิโคนเจล เพราะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยสมานแผล และควรมองหายาที่มาพร้อมส่วนผสมสำคัญอย่าง Vitamin E และ Vitamin C ที่จะช่วยเพิ่มความกระจ่างใส พร้อมฟื้นฟูรอยแผลเป็นให้นุ่มลง เมื่อทาอย่างต่อเนื่องหลังแผลเริ่มแห้ง จะช่วยให้แผลค่อย ๆ ดีขึ้นได้

ขอแนะนำ ครีมทาแผลเป็นนูน PROVAMED SCAR SILICONE เจลลดรอยแผลเป็นเนื้อซิลิโคนใส ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุและแผลหลังผ่าตัดทุกชนิด มีส่วนประกอบของ CPX ฟิล์มปกป้องแผลเป็นในปริมาณเข้มข้นสูง ทำหน้าที่สร้างฟิล์มเคลือบ พร้อมรักษาความชุ่มชื้นบริเวณที่เกิดแผล และช่วยนำสารสำคัญ Epitensive ซึ่งเป็นโปรตีนจากพืช ให้ซึมลงสู่ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างโปรตีนในชั้นผิว ทำให้เกิดเนื้อเยื่อมาซ่อมแซมเซลล์ผิว ช่วยให้แผลที่แข็งนูน ดูนุ่มและเรียบเนียนขึ้น

ช็อปสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์, ห้างสรรพสินค้า และร้านขายยาใกล้บ้านคุณ

 

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. การทำแผล. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2563 จาก https://www.paolohospital.com/th-TH/center/Article/Details/การทำแผล
แชร์ :